สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปพบกับรีวิวจริงจากลูกค้าที่เคยเข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital) ของเรา และเคสนี้เป็นการศัลยกรรมลดโหนกแก้มวีไลน์ ศัลยกรรมแก้จมูก และศัลยกรรมขูดฟิลเลอร์คาง โดยคุณกิ๊ฟซึ่งเป็นเคสศัลยกรรมงานละเอียดๆ ของคุณหมอโรงพยาบาลศัลยกรรมไอดีค่ะ เคสนี้เรียกได้ว่าเปลี่ยนสไตล์ความสวยไปเป็นคนละคนเลย จากที่เคยสวยสไตล์ไทยๆ ตอนนี้กลายเป็นสาวสวยสายเกาไปแล้วค่ะ
ในเคสของคุณกิ๊ฟที่ตัดสินใจบินไปทำที่เกาหลี โดยเลือกโรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital)
เพราะคุณกิ๊ฟเคยได้ยินเรื่องราวของคุณหมอที่ทั้งเก่ง แล้วก็ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการมาจากรายการ Let me IN นั่นเองค่ะ โดยคุณกิ๊ฟได้เดินทางไปเกาหลีในวันที่ 7 สิงหาคม 62 พอถึงสนามบินอินซอน ก็จะมีรถจากทางโรงพยาบาลมารอรับไปโรงแรมซึ่งสะดวกมากๆ ค่ะ ทีมงานที่ไทยของเราจะประสานงานให้ครบ จบ จนเดินทางกลับมาไทยเลยค่ะ
เมื่อคุณกิ๊ฟมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็จะเป็นการพูดคุยและปรึกษากับคุณหมอค่ะว่าลูกค้าต้องการแก้ไขและปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง โดยหลังจากที่คุณกิ๊ฟปรึกษากับคุณหมอแล้ว คุณกิ๊ฟได้ตัดสินใจทำศัลยกรรมลดโหนกแก้มวีไลน์ แก้จมูก และขูดฟิลเลอร์คาง โดยก่อนหน้านี้คุณกิ๊ฟเคยมีประวัติศัลยกรรมมาแล้วคือ ทำจมูกมา 2 ครั้งกับคาง 1 ครั้ง แต่ด้วยโครงหน้าเดิมของคุณกิ๊ฟที่เป็นคนที่จมูกเล็กบวกกับมีรูปคางที่สั้น ทรงจมูกที่ทำครั้งแรกจะมีทรงปลายสั้นและเอียงไม่สมดุล ส่วนในรอบที่สองทำออกมาแล้วคุณกิ๊ฟก็รู้สึกว่าตรงสันดั้งมันไม่โด่งเหมือนตอนแรกที่ทำ เมื่อได้ปรึกษากับคุณหมอแล้ว คุณกิ๊ฟเลยตัดสินใจแก้จมูกกับทางโรงพยาบาลไอดีเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องไปแก้ที่ไหนอีกแล้วค่ะ
ในส่วนของลักษณะคางของคุณกิ๊ฟที่ต้องการทำศัลยกรรม คือรูปคางของคุณกิ๊ฟนั้นจะยื่นออกมาด้านหน้า ซึ่งส่วนตัวแล้วคุณกิ๊ฟไม่ค่อยชอบคางทรงนี้ และประกอบกับการที่มีสิวขึ้นที่คางประจำตรงจุดเดิมและรักษาไม่หาย ทางคุณกิ๊ฟเลยน่าจะเกิดจากการแพ้ซิลิโคน การตัดสินใจทำศัลยกรรมลดโหนกแก้มวีไลน์ แก้จมูก ขูดฟิลเลอร์คางครั้งนี้ของคุณกิ๊ฟจึงเป็นการเสริมจมูกแล้วก็เอาซิลิโคนออกด้วยนั่นเองค่ะ
ก่อนศัลยกรรมคุณกิ๊ฟจะต้องตรวจอะไรบ้าง?
สิ่งที่โรงพยาบาลจะทำการตรวจร่างกายก่อนทำการศัลยกรรม(ทุกๆ เคส) ได้แก่ ตรวจเช็คโรคประจำตัว, ตรวจเลือด, ค่าตับ, ความเข้มข้นเลือด, ความดัน, ตรวจวัดคลื่นหัวใจ, X-RAY โครงหน้าและ CT scan ค่ะหลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนอื่นๆ คือ
ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อจะได้ตรวจแบบละเอียดตอนคุยกับคุณหมอจะได้เห็นโครงหน้าชัดๆ
ตรวจ CT scan โดนตัวเครื่องจะสแกนใบหน้าทุกมุมออกมาเป็น ฟิล์ม X-ray
การถ่ายภาพ Before หน้าตรงหันหน้า เงย หน้าทำมุม 45 องศา
เจาะเลือด ความดัน ตรวจคลื่นหัวใจ
หลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการพูดคุยพบกับที่ปรึกษาคุณหมอก่อน ว่า นอกจากสิ่งที่คุณกิ๊ฟอยากทำนั้นมีจุดอื่นที่อยากจะแก้ตรงไหนปรับตรงไหน อยากจะถามอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า รวมทั้งการซักถามประวัติอย่างละเอียด เช่น ทำศัลกรรมอะไรมาแล้วบ้าง จมูกกี่ครั้ง นานแค่ไหน เคยฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนบ้าง โครงหน้าที่ต้องการ จมูกเอาปลายเชิ่ดโด่งๆแค่ไหน จุดนี้คุณหมอจะซักถามอย่างละเอียดเลยค่ะ ซึ่งสำหรับตัวคุณกิ๊ฟเองก็ได้แจ้งความชัดเจน และอธิบายให้คุณหมอฟังว่าต้องการแบบไหนยังไงแบบละเอียดดีมากๆ เลยค่ะ
หลังจากนั้นก็จะเป็นการคุยกับคุณหมอเฉพาะทางด้านโครงหน้า โดยคุณกิ๊ฟได้แจ้งว่าต้องการจะเอาซิลิโคนคางออกและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ซึ่งคุณหมอก็ได้พิจารณาและตัดสินใจว่าเคสของคุณกิ๊ฟนั้นคุณหมอจะทำวีไลน์ กาม + คางให้โดยใช้กระดูกตรงคางให้คางยาวขึ้น และใส่น๊อตตรงคางพร้อมแนะนำให้ทุบโหนกด้วย เพราะจากการดูจากผล X-ray แล้วโหนกสองข้างของคุณกิ๊ฟไม่เท่ากัน ทำให้ตาดูเล็ก ดังนั้นคุณหมอและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะปรับให้พอดีกับขนาดใบหน้าของคุณกิ๊ฟที่สุด และสุดท้ายก็คือการเข้าพบกับคุณหมอจมูกที่รอบนี้คุณกิ๊ฟเลือกทำจมูกแบบ open ซึ่งคุณหมอจะใช้กระดูกหลังหูอันเดิมที่ใส่อยู่ แต่จะทำให้จมูกโด่งกว่าเดิม ปลายแบบเชิ่ดๆ และปรับส่วนที่เอียงให้ตรงขึ้น
รายการที่คุณกิ๊ฟทำทั้งหมดที่โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital)
โครงหน้า วีไลน์ (กราม+คาง)
โหนกแก้ม
เอาซิลิโคนเก่าออก
แก้จมูก
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดของคุณกิ๊ฟ
งดน้ำ งดอาหารทุกอย่าง 8 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงคืน ผ่าตัด 10 โมง
วัดความดันก่อนเริ่มผ่าตัด
คุณหมอเข้ามาดีไซน์ใบหน้าและบอกขั้นตอนการทำทุกอย่างแบบละเอียดมากๆ
REAL REVIEW: ศัลยกรรมลดโหนกแก้มวีไลน์ แก้จมูก ขูดฟิลเลอร์คางของคุณกิ๊ฟ
โครงหน้าเดิมของคุณกิ๊ฟก่อนทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลไอดีที่จะเห็นว่าโครงหน้ายังดูแข็งๆ นิดหน่อย มีโหนกแก้มยื่นออกมาอยู่บ้างทำให้เค้าโครงยังไม่ดูละมุนเท่าไหร่ค่ะ
เมื่อคุณกิ๊ฟตัดสินใจแก้จมูกก็ได้คุณหมอซนโฮซองเป็นผู้ดูแล โดยคุณหมอได้ดีไซน์จมูกที่เหมาะสมรับกับใบหน้าของคุณกิ๊ฟให้ออกมาธรรมชาติเหมือนไม่เคยทำมาก่อนเลยค่ะ
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดหน้าก็จะคลีนๆ แบบนี้นะคะ เพราะจะต้องล้างหน้าให้สะอาดก่อนผ่าตัดค่ะ
หลังผ่าตัด 2 วัน หน้าก็จะยังดูบวมๆ อยู่ค่ะ แต่เคสของคุณกิ๊ฟถือว่าช้ำน้อยมากๆ
หลังผ่าตัด 5 วัน ใบหน้าก็จะเริ่มยุบลงแล้วนะคะ ส่วนใต้ตาจะดูเหลืองขึ้นแสดงว่าแผลและคุณกิ๊ฟเริ่มฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
หลังผ่าตัด 7 วัน คุณกิ๊ฟได้ถอดเฝือกจมูกแล้ว และจะเห็นว่าใบหน้าแทบไม่เห็นรอยเขียวช้ำเลย
หลังผ่าตัด 10 วัน โครงหน้าและจมูกของคุณกิ๊ฟเริ่มเข้ารูปบ้างแล้วแต่ยังบวมอยู่นิดหน่อย อย่างไรก็ตามจะเห็นได้เลยว่าหน้าของคุณกิ๊ฟดูเปลี่ยนไป ดูหวาน ดูเด็กละมุนขึ้น เส้นหน้าเรียวขึ้น ไม่ติดเหลี่ยมตรงโหนกแก้มเหมือนก่อนทำเลยค่ะ
หลังผ่าตัด 14 วัน ใบหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นสาวหวานละมุนเลยค่ะ โดยหลังจากนี้ความบวมก็จะยุบลงเรื่อยๆ เพราะการศัลยกรรมเป็นแผลผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลากว่าทุกอย่างจะเข้าที่ให้เวลาไปเลยค่ะ ประมาณ 1 ปี แต่ยังไม่ทันถึง 1 ปี หน้าก็ดูสวยขึ้นจากเดิมเยอะแล้วค่ะ
ผ่านไป 2 เดือน คุณกิ๊ฟกลายเป็นสายเกาเต็มตัวแล้วค่ะ แต่งหน้านิดหน่อยสวยมากๆ แล้ว
ภาพเปรียบเทียบให้ดูก่อนทำและหลังทำ คุณกิ๊ฟดูสวยแตกต่างแต่แทบดูไม่ออกเลยว่าทำอะไรมาบ้าง บอกเลยว่าการทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital) รับรองว่าได้งานดี งานละเอียด งานเกาหลีแน่นอนค่ะ สวยคอมพลีทสุดๆ
จมูกโด่งพุ่งสวยแบบไม่ปลอม ไม่โป๊ะ กรอบหน้าสวยเด่น หันมุมไหนก็สวย ไม่เสียเวลาหามุมกล้องจะยิ้ม จะหน้าบึ้ง จะตึงแค่ไหนก็สวยค่ะ
หนุ่มๆ สาวๆ คนไหนอยากปรับลุค เสริมความหล่อสวย แวะมาปรึกษาคุณหมอกันก่อนได้นะคะ เพราะที่โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital) สามารถปรับและแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเองได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย สามารถแอดไลน์มาปรึกษาได้เลยนะคะ เรามีเจ้าหน้าที่ใจดีและมีความเชี่ยวชาญคอยตอบปัญหาเพื่อนๆ โดยสามารถแอดไลน์มาสอบถามราคา จองคิว และรายละเอียดอื่นๆ ได้ตลอดทุกวันเลยค่ะ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพประกอบจาก: โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital)
ติดตามโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่
LINE : @oppame หรือ www.connextchat.com/oppame
Website : www.oppame.com
Comments