รีวิวปรับโครงหน้า+แก้ตา+แก้จมูก บาโนบากิ
สวัสดีค่ะทุกคน เดียร์ Adearabittty นะคะ วันนี้จะมาพูดถึงการศัลยกรรมครั้งที่ 4 และเดียร์หวังให้เป็นครั้งสุดท้าย รอบนี้บินมาทำถึงเกาหลีเลย เดียร์เลือกทำกับโรงพยาบาลบาโนบากิ เพราะรู้จักชื่อเสียงของเขาจากรายการดัง Let me in และก็คนรอบตัวหลายๆคนก็ทำจากที่นี้ เสียงยืนยันว่าดี ฝันเป็นจริง จะได้สวยแบบสาวเกาแล้ว เดี๋ยวมาเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกกันเลยดีกว่า
พอเดียร์ไปถึงวันแรก ร.พ.สะอาดและสวยงามมาก นมร้อนที่นี่อร่อยมาก ใครมาแนะนำต้องดื่ม
ระหว่างรอปรึกษาคุณหมอก็นั่งดูเคสศัลยกรรมของคนอื่นไปพลางๆ เปิดดูแต่ละคนทำแล้วสวยขึ้นมาก เห็นแล้วยิ่งตื่นเต้น
จากนั้นก็ขึ้นไปข้างบนเพื่อถ่ายรูป Before ในมุมต่างๆ ไว้และไม่ใช่แค่นั้นนะ ที่ ร.พ.บาโนบากิเขาละเอียดมาก มีการทำ CT Scan และก็เอ็กซ์เรย์โครงหน้า จะได้ให้คุณหมอดูแบบละเอียดๆเลย และก็มีการตรวจร่างกาย ตรวจคลื่นหัวใจ ความดัน และตรวจเลือด เพื่อเช็คความพร้อมของเราว่าพร้อมผ่าตัดไหมนะคะ
ต่อไปก็ถึงเวลาเจอคุณหมอแล้ว คุณหมอตาจมูกน่ารักมาก อธิบายให้ฟังแบบละเอียดเลย และแบบหมอรู้และเข้าใจปัญหาที่เรามีได้ดีมากๆเลย เพราะเดียร์มีกังวนเรื่องฐานที่ดูกว้าง และก็ปีกจมูกที่กว้าง ทั้งที่เคยตัดปีกจมูกที่ไทยไปแล้ว 1 ครั้ง หมอก็แนะนำว่าจะต้องมีการเก็บปีกจากด้านใน และมีการกรอปรับฐานจมูกที่กว้างให้เรียว และก็เพิ่มการใส่กระดูกหลังหูที่ปลายด้วย ก็คุยรายละเอียดของทรงที่ต้องการกันจนชัดเจนเลย
ส่วนเรื่องตา ตาเกียร์ท่ามา 1 ครั้งที่ไทย เป็นการกรีดแบบสั้นมา แต่ปัญหาคือชั้นตาไม่เ ท่ากันแบบชัดไปหน่อย และก็ตาดูปรือ ดูง่วงนอน และปัญหาหลักคือชั้นใหญ่ไป ทำให้ดูไม่ธรรมชาติ เวลาเดียร์แต่งตา กรีดอายไลเนอร์เบาๆทีไร ดูนอนไม่พอทุกที วอนหมอแก่ให้หนูหน่อย หมอบอกทำได้นะ วิธีการคือปรับกล้ามเนื้อตา ให้ลืมตาได้มากขึ้น เห็นตาค่ามากขึ้น ก็จะส่งผลให้ตาเราดูโตและสดใสขึ้น แค่นั่นไม่พอ เดียร์เครียดเรื่อง นตาที่ใหญ่มาหลายปีมาก ปรึกษาที่ไทยมาหลายที่ แต่ทุกที่บอกว่าแก้ให้เล็กลงไม่ได้มันยากมาก และมันเป็นการกรีดไปแล้วด้วย แต่หมอ บอกว่าทำได้หลายวิธีเลย แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเราด้วยว่าจะเหมาะกับวิธีไหน คุณหมอก็พยายามอธิบายให้ฟังว่าจะแก้ยังไง ตลอดที่ปรึกษาจะมีพี่ลาม ก็คือพี่มะเหมี่ยวคอยอธิบายให้ฟังเป็นภาษาไทยตลอด ไม่ต้องกลัวไม่เข้าใจเลยนะ
หมอโอเนี้ยจะเป็นคนที่ทำโครงหน้าให้เดียร์ ก็คือทำโหนกแก้ม กราม และคาง คุณหมอก็จับดูกระดูกเรา และก็ดู CT Scan ประกอบด้วย เดียร์มีปัญหาคือโหนกแก้มและกรามใหญ่ กรามสองข้างไม่เท่ากันด้วย และก็คางตัด ส่วนอีกปัญหานึงที่ไม่เคยรู้เลย คือตรงคางเดียร์มีกล้ามเนื้อที่โต เพราะมาจากการที่ไม่สามารถหุบปากได้สนิท เวลาหุบปากให้สนิทก็จะต้องใช้แรง ทําให้ตรงคางมีกล้ามเนื้อปูดๆขึ้นมา คุณหมอก็บอกจะจัดการตรงนี้ให้ด้วย
หลังจากเจอคุณหมอทั้งสองแล้ว ก็จะได้เจอกับพี่มะเหมี่ยวอีกที ที่เป็นล่ามคนไทย จะอธิบายแบบละเอียด ถึงตำแหน่งแผล วิธีการผ่าตัด ขั้นตอนต่างๆ อาการหลังผ่าตัดการดูแลตัวเองต่างๆ
จากนั้นเดียร์ก็กลับไปพักผ่อน เตรียมผ่าตัดพรุ่งนี้แล้ว ก่อนผ่าตัดก็ต้องอดน้ำและอาหาร 8 ชม.ด้วยนะ มาถึงวันผ่าตัดแล้ว
มาถึงโรงพยาบาลก็เปลี่ยนชุดและรองเท้าของโรงพยาบาลก่อนเลย แล้วก็เช็คว่าเราอดอาหารและน้ำตั้งแต่กี่โมง มื้อสุดท้ายทานอะไรไป
ก่อนเข้าผ่าตัดถ่สยรูป Before และอธิบายขั้นตอนการดูแลตัวเอง เขาละเอียดมากๆ พร้อมเซ็นรับทราบ
นั่รอผ่าตัดแบบลุ้นๆ OK ได้เวลาผ่าตัดเเล้ว ติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะ
สวัสดีค่ะทุกคน มาต่อกันที่พาร์ท 2 แล้ว หลังจากที่เดียร์เข้าไปผ่าตัดตาตอน 11 โมง ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชม ก็ทำตาเสร็จ และก็มานอนพักฟื้นต่อ รอเข้าผ่าตัดจมูกและโครงหน้าอีกที เหมือนเข้าห้องผ่าตัดไปตอนเย็นๆ และมาที่ห้องพักฟื้นประมาณเที่ยงคืนได้
มาถึงห้องพักฟื้นเดียร์ง่วงมาก เพราะฤทธิ์จากยาสลบ แต่ก็ห้ามนอน และห้ามกินน้ำจนกว่าจะตีสาม คือเจ็บคอมาก น่าจะมาจากการสอดท่อช่วยหายใจนะ ก็ที่แขนก็มีสายน้ำเกลือด้วย คือเป็นการให้น้ำเกลือ และน้ำแก้ปวดด้วย คือไม่เจ็บเลย แต่มึน งง ชา ตึง รู้สึกไม่สบายตัว รู้สึกหนาว ทั้งคืนจะมีพยาบาลดูแล 24 ชม.นะคะ สามารถเรียกเขาได้ตลอด
ทั้งคืนเดียร่ปวดฉี่หลายรอบมาก ปวดแบบต้องฉี่ให้ได้ แต่ก็นี่ไม่ออกด้วย ไม่แน่ใจเป็นเพราะอะไร ก็ต้องพยายามฉี่ให้ได้ คืนนั้นตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 10 โมงเช้า เดินไปฉี่ทั้งคืน พอดีสามก็เริ่มดื่มน้ำ ดื่มนมไปหน่อยนึง แต่ดื่มได้นิดเดียว เพราะรู้สึกจะอ้วก คลื่นไส้ด้วย
พอตอนเช้าประมาณ 8 โมง พยาบาลก็มาเช็คถุงเลื อดที่ต่อจากสายเดรนที่กระพุ้งแก้ม และก็แจ้งว่าให้กินนมนะ เพราะเดี๋ยวจะกินไม่ได้อีกหลายชมเลย นี่ก็พยายามซดไป พอสัก 10-11 โมง คุณหมอก็ทยอยมาหา คนแรกที่ มาเลยหมอก็มาตรวจผลการผ่าตัด และมีการเช็คตา ติดสติ๊กเกอร์ที่ตาให้ใหม่ และจากนั้นหมอโอชางฮยอนก็มา คุณหมอบอกการผ่าตัดดีเลย ไม่มีปัญหา ฟังแล้วโล่งใจมาก คุณหมอก็บอกให้สู้ๆ อดทน ช่วง 1-3 วันแรกจะบวมหน่อย จากนั้นพยาบาลก็มาแกะที่พันหัว ทำแผลตามหู จมูก และดึงสายเดรนออก แล้วจากนั้นก็เปลี่ยนชุดกลับที่พักได้เลย ล่ามไทยก็มาดูแลอีกทีด้วย
หลังผ่าตัด 1 วัน ช่วงแรกๆ คือเดีย มีเช็คอัพตอนหลังผ่าตัด 1 วัน / 5 วัน / 7 วัน และ 10 วัน ก็มีเช็คแผล ทำแผล และ ก็อบอ๊อกซิเจน/ฉายแสง/เลเซอร์ และทรีทเม้นต์ ทั้งหมดนี้จะช่วยลดอาการบวมของเราได้ดีเลยนะ
วันที่7 มีทำ TC Scan อีกครั้งด้วย ทีนี้เราก็จะได้เห็นว่าคุณหมอตัดตรงไหนไปมากน้อยแค่ไหนแล้วด้วย ตอนเจอคุณหมอ แล้วหมอโอ อธิบายให้ฟังว่าตัดตรงไหนไปบ้าง เดียร์ตื่นเต้นมาก ว่าแบบโห ยุบแล้วหน้าต้องเล็กขึ้นมากแน่ๆเลย
ของกินช่วง 7 วันแรก เดียร์พยายามกินพวกอะไรที่กลืนได้หมดเลย เวลากินก็ใส่แก้วกระดาษ และบีบแก้วให้กรอกใส่ปากได้ง่ายๆ แนะนำทุกคนพยายามกินให้ได้เยอะๆนะ ไม่งั้นร่างกายเราจะไม่ไหว หน้าจะมืดได้ และก็ไปเดินเยอะๆหน้าจะได้ยุบบวมไวๆด้วย แล้วก็ประคบเย็นบ่อยๆช่วยได้มาก
ช่วงแรกเดียร์ก็แอบปวดช่วงกรามนิดนึง อารมย์เหมือนเพิ่งถอนฟันมา ก็กินยาแก้ปวดบ้างที่ทางร.พ.ให้มาตรงจมูกเบี้ยจะมีเลือดซึมๆ เป็นพักๆ และก็น้ำมูกก็ค่อนข้างเยอะเลย เดียร์ก็ขยันทำความสะอาดแผล แรกๆอาจจะกลัวเจ็บบ้าง แต่เราต้องพยายามเช็ดให้สะอาด เพราะถ้าไม่สะอาด พยาบาลจะเป็นคนเช็ดนะ ฉะนั้นเราทำเองดีกว่า รู้จังหวะ รู้น้ำหนักมือ
เวลาออกไปข้างนอกเดียร์ก็ใส่แมสนิดนึง กันหน้าเราหนาวด้วย และก็กันฝุ่นมาติดแผลเรา คนเกาหลีเขาไม่ค่อยสนใจเรานะ มีบ้างที่จะมอง แต่ส่วนมากเขาดูจะค่อนข้างชิ้นแล้ว ก็สบายๆ
อันนี้เป็นยาของที่โรงพยาบาลสั่งจ่ายยามาให้ ยาเกาหลีกินง่ายดีนะ เขาเป็นเป็นมื้อๆมาให้ชัดเจนดี และก็พยายามบ้วนปากบ่อยๆด้วยนะ ตอนก่อนกลับ ทางโรงพยาบาลก็ให้คูปองสระผมฟรีมาด้วย เป็นร้านข้างหลังโรงพยาบาล เราก็เอาคูปองไปยื่นได้เลย สบายหัวมากกก หลังจากไม่ได้สระผมมาหลายวัน
พอครบ 14 วัน เดียร์ก็ไปตัดไหมเลย เดียร์เลือกเป็นตัดไหมที่ไทยนะคะ ทางบาโนบาก็เขามีติดต่อประสานงานกับทางเมโกะคลินิคไว้ให้หมดแล้วสารภาพจากใจ ตัดไหมในปากเจ็บมากเลย รวมๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการตัดหน้าเดียร์ก็สลับๆบางวันแอบบวม บางวันก็ดูยุบวันไหนนอนเยอะ หน้าบวมมาก ช่วงนี้ก็หมดยาของหมดแล้วเนอะเดียร์ก็มีการเสริมน้ำใบบัวบก ใบบัวบกแบบเม็ดและน้ำมะพร้าวเข้าไปด้วย
ช่วงแรกเดียร์พยายามกินเป็นอาหารที่กินง่าย พวกซุป โจ๊ก ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว พุดดิ้ง เพราะกรามยังรู้สึกไม่มีแรงในการจะเคี้ยวขนาดนั้น แต่พอเริ่มสักอาทิตย์ที่ 3 เดียร์เริ่มพยายามกินและเคี้ยวและ แต่ก็ยังไม่กินอะไรที่แข็งหรือกรอบมากๆนะ พอครบ 1 เดือนก็กินได้แทบหมดแล้ว แต่ยังอ้าปากได้ไม่กว้างเท่าปกติ ก็พยายามหัดอ่าปาก บริหารกล้ามเนื้อไปเรื่อยๆ
ขออัพเดตถึงการเจ็บชาหน่อย ตรงเสมะหะปนสีนํ้าตาล ยาฆ่าเชื้อ) เดียร์เป็น จนตอนนี้ครบ 1 เดือนยังไม่หายเลย แต่ก็ค่อยๆลดลงไป ส่วนดาเดียร์งดใส่คอนแทคเลนส์จนครบ 1 เดือน และก็บางครั้งต้องแต่งหน้าไปงานละ มันจะแอบเสียวๆตา ดึงๆ เวลาแต่งตาบ้างส่วนจมูกตอน 2-3 อาทิตย์มีลอกๆ แห้งๆ แต่ตอนนี้ครบ 1 เดือน ดีขึ้นแล้ว ผิวหน้ากลับมาปกติ จมูกเนียยังแอบเจ็บนะ เวลาเผลอไปโดน ก็ต้องระวังนิดนึง มาพูดถึงโครงหน้าเดียร์คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ร่างกายฟื้นตัวช้าด้วย หน้าเลยแอบยังบวมเยอะนะ และก็มีอาการเสียวๆจี๊ดๆที่กรามบ้างบางครั้ง แต่ไม่บ่อย ตาของเดีย ตอนแรกจะต้องติดสติ๊กเกอร์ไว้ แต่พอสักพักก็ไม่ต้องแล้ว คือตาเดียร์แก้ให้มันเล็กลงและเป็นการกรีดทั้งสองรอบ ก็ยังมีรอยทั้งเก่าและใหม่ ต้องใช้เวลาอีกสักพักให้รอยพับมา การกรีดใหม่ และรอบเก่าค่อยๆหายไป ส่วนรอยใหม่ ที่คุณหมอคิม ถ้าเทียบตาเก่าตอน 1เดือน กับตาใหม่ตอน 1 เดือน แผลใหม่ดีกว่าเดิมเยอะเลย หายไวกว่า แต่ก็ยังมีบวมบ้าง 3-6 เดือนจะดีกว่านี้
ส่วนจมูกขอบอกว่าประทับใจมาก ขนาดยังไม่รัดแกนนะ เป็นไปตามที่รีเควสกับหมอคิมแจกันทุกอย่างเลยอ่ะ มันเรียวขึ้น เล็กขึ้น รูจมูกไม่บานแล้ว เป็นสโลปสวย ปลายเชิดหน่อยๆ จมูกใหม่ทำให้หน้าละมุนมากตอนนี้ครบ 1 เดือน ถึงหน้าจะยังกลมๆบ้าง แต่ก็ยังถ่ายรูป ไปเที่ยว ได้ปกติเลย กินอร่อยเหมือนเดิมแค่กินค่าเล็กหน่อย55555 เดี่ยวตอนยุบหน้าต้องเล็กแน่ๆเลย
สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้ก็ครบ 3 เดือนแล้ว กับการศัลยกรรมของเดียร์ ที่รพ.บาโนบากิ ทั้งหมดที่ท่าก็มีแก้ตา แก้จมูก โหนกแก้ม และวีไลน์นะคะ อัพเดตอาการต่างๆนิดนึง ตอนนี้อ้าปากได้ปกติแล้ว อาการชาที่โหนกแก้มแทบไม่มีแล้วนะ และแผลที่ตรงไรผมที่เปิดเพื่อท่าโหนกแก้มคือมองไม่เห็นเลย จมูกก็เริ่มยุบ น แต่จะรัดแกนจริงๆต้องใช้เวลาอีกนะคะ ส่วนที่ยังเจ็บอยู่บ้างคือหลังหูเลย ถ้านอนตะแคงกดมากๆ หรือโดนแรงๆอาจจะยังเจ็บ หน้าตอนนี้มีความละมุนขึ้นมาก คนรอบตัวก็บอกว่าหน้าหวานขึ้น แต่ดูธรรมชาติ คงความเป็นตัวเอง ส่วนคนที่ไม่เคยเจอ จะบอกว่าหายไวมาก ไม่บอกไม่รู้เลยว่าทำมาอะไรแบบนี้ ส่วนตัวแฮปปี้นะ เวลาเมื่อก่อนหน้าสดจะไม่ได้เลย ตาดูง่วงมาก แต่พอแก้ตาให้ชั้นตาเล็กลง แต่งตาน้อยๆหรือไม่แต่งก็ไม่ดูตาปรือแบบแต่ก่อนแล้ว
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เดียร์จะมาสรุปการทำศัลยกรรม โครงหน้า(กราม+โหนกแก้ม+คา ง), แก้จมูก, แก้ตา บาโนบากิ ตอนนี้ก็ 6 เดือนแล้วนะ หน้าตอนนี้เข้าที่ขึ้นมาก ยุบไปเยอะเลย หลายๆคนก็บอกสวยขึ้น หน้าหวานมาก
ตอนนี้ตากับจมูกไม่มีเจ็บแล้ว ส่วนโหนกแก้มยังมีชาบ้างนิดหน่อยและตรงหูที่มีการใช้กระดูกอ่อน ตอนนี้ก็แทบไม่เจ็บแล้ว กับการทำโครงหน้าตอนนี้กินได้ปกติเลยค่ะ
ANNYEONG AGENCY
ให้มืออาชีพดูแลคุณ ก่อน-หลังพักฟื้น
กดติดตาม
รายละเอียด
ปรึกษาศัลยกรรม/ขอโปรส่วนลด/ขอดูรีวิว
LINE Official : https://lin.ee/Xsvt9bK
…………….
#annyeongagency #เคสรีวิวผู้ใช้บริการจริงannyeongagency #ศัลยกรรมเกาหลีannyeong #รีวิวศัลยกรรมเกาหลีannyeong #banobagiplasticsurgerybyannyeongagency #oppameannyeong
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/Xsvt9bK
เยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์ ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://www.facebook.com/annyeong.agency
Comments